Preecha Subpasriหากพูดถึงคำว่า funnel แล้ว ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะรู้จักกันอยู่บ้างแล้วนะครับ
โดยเฉพาะคนทำอีคอมเมิร์ซน่าจะรู้จักเป็นอย่างดี
ส่วนใครที่ยังไม่รู้จัก มาทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กับผมเลยก็ได้นะครับ
คำว่า funnel หรือ กรวย คือความหมายในภาษาไทยครับ
การทำ funnel เป้าหมายหลัก ๆ ก็เพื่อต้องการเพิ่มโอกาสในการขายให้มากขึ้น
บางคนอาจจะใช้ในการวอร์มกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เกิดความไว้ใจ เชื่อใจ แล้วค่อยทำการเสนอสินค้า/บริการ
ซึ่งเมื่อกลุ่มเป้าหมายไว้ใจ เชื่อใจแล้ว การจะเสนอสิ่งดี ๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมาย ก็เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น
ในการทำ funnel นั้น มีหลายแบบ หลายวัตถุประสงค์ ดังตัวอย่างที่ผมจะแนะนำด้านล่างนี้
เราสามารถสร้างลิสต์จากผู้ที่สนใจเข้าร่วมสัมนาออนไลน์ได้ โดยปรับแต่งตามตัวอย่างด้านบน คนทำธุรกิจขายตรงก็สามารถนำ funnel แบบนี้ไปใช้ได้ เพื่อเป็นการให้ความรู้ ปรับแนวคิดให้กลับดาวน์ไลน์ที่กำลังสนใจธุรกิจ
ตัวอย่างนี้ ส่วนตัวผมยังไม่เคยใช้ แต่หยิบมาเล่าสู่กันฟัง ซึ่งผมมองว่า funnel ลักษณะนี้มีข้อดีคือ ช่วยแบ่งกลุ่มลูกค้าตามความสนใจได้เป็นอย่างดี ประมาณว่า มีทราฟฟิคเข้ามาเยอะ ๆ ถ้าเราจะรู้จักกลุ่มเป้าหมายเราบ้าง สิ่งที่ต้องทำคือการถาม แล้วก็ติดแท็กความสนใจไว้ก่อนแล้วค่อยส่ง offer ไปในภายหลัง
ตัวอย่างนี้ผมใช้ในการขาย info product ในตลาดต่างประเทศ แต่เป็นการใช้งานผ่านแพลตฟอร์มของคนอื่น ซึ่งเป็นรูปแบบที่เข้าใจง่าย และหลาย ๆ คนก็ใช้กัน
อันนี้ก็เป็นอีก funnel ที่ผมใช้อยู่ในปัจจุบันในตลาดบ้านเรานี่เองครับ แต่ผมทำเป็น 14 วัน บางคนทำ 7 วัน 30 วัน 60 วัน 90 วัน อันนี้แล้วแต่เราจะเลือกแบบไหน แต่สิ่งที่ผมเพิ่มเข้ามาคือ หากลิสต์ใดไม่มีส่วนร่วมกับอีเมล์ที่ส่งไปภายใน 30 วัน automation ผมจะทำการลบอีเมล์นั้นออกจากระบบทันที ซึ่งช่วยให้ประหยัดพื้นที่ และโฟกัสกับคนที่ให้ความสนใจกับเราได้มากขึ้นดีครับ
อันนี้เป็นการสร้างลิสต์โดยมีของแลกเปลี่ยน อย่างอีบุ๊คส์ หรือไกด์ แล้วแต่เราจะนำมาแลกเปลี่ยน ผมยกตัวอย่าง ผมต้องการสร้างลิสต์ของคนที่สนใจการฝึกโยคะ ผมอาจจะสร้างอีบุ๊คส์เล็ก ๆ แนะนำ 30 ท่าเบสิคในการฝึกโยคะที่บ้านมาแจกก็ได้ครับ
จาก 5 ตัวอย่างข้างต้น เพื่อน ๆ พอจะมองเห็นประโยชน์ของการทำ funnel แล้วใช่ไหมครับ ซึ่งเราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับหลายธุรกิจมาก ๆ อย่าง อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจฝึกอาชีพ เป็นต้น
แล้วเจอกันใหม่บทความหน้านะครับ
