สวัสดีครับ !
ผมชื่อปรีชา สรรพศรี  (เรียก "โชค" ก็ได้ครับ)

บางท่านอาจจะสงสัยว่าทำไมผมถึงมาชวนทำ Digital Product ขอเล่าย้อนกลับไปเมื่อ 2-3 ปีก่อนนี้ ซึ่งเป็นช่วงที่ผมหันเหเข้าสู่สายอีคอมเมิร์ส (E-commerce) จดบริษัทเล็ก ๆ และลุยอย่างเต็มตัว  ต้องบอกเลยว่ามันเหนื่อยมากจริง ๆ ถึงผมจะใช้ Oursource มาช่วยบริหารงานก็ตาม แต่ทุก ๆ เดือนผมต้องทำบัญชีบริษัท  เช็คสต๊อกสินค้า ติดตามออเดอร์ให้ลูกค้า แม้กระทั้งติดตามให้ลูกค้ารับสินค้า ต้องปวดหัวกับพี่มาร์คที่ค่อยปิดบัญชีโฆษณา แถมยังค่าโฆษณาแพงขึ้นทุกวันอีกต่างหาก ซึ่งนี้เป็นเพียงบางส่วนที่ผมเจอในการทำอีคอมเมิร์ส คนที่ทำสเกลใหญ่กว่าผมคงไม่ต้องพูดถึงปัญหา น่าจะเยอะกว่าผมมาก ที่ผมเล่ามาข้างต้นนั้น ไม่ได้หมายความว่าผมเลิกทำอีคอมเมิร์สนะครับ ผมยังคงขายต่อไป โดยใช้ oursource เหมือนเดิม และปล่อยให้ระบบมันรันของมันไปเรื่อย ๆ

ภาพด้านล่างนี้คือช่วงรุ่งเรืองในการขายอีคอมเมิร์ส

ยอดส่งของวันละ 150-250 ออเดอร์

ก่อนหน้านั้นหลายปีผมก็พอมี Digital Product อยู่บ้าง และก็ยังคงทำเงินให้ผมอยู่เรื่อย ๆ ถึงจะไม่เยอะ เนื่องจากไม่ค่อยได้ใส่ใจ แต่เมื่อผมลองเปรียบเทียบกันกับอีคอมเมิร์สที่ผมทำอยู่นี้แล้ว ผมค่อนข้างเอนเอียงไปทาง Digital Product ซะเยอะ นั้นเพราะมันตอบสนองไลฟ์สไตล์ผมมากกว่า ซึ่งก่อนนี้ผมค่อยข้างชอบเที่ยวแบกเป้ ไปทีสัปดาห์ สองสัปดาห์ ชอบนอนดึก ตื่นสาย ชอบออกกำลังกาย ซึ่งการทำสินค้าแนว Digital Product ค่อยข้างตอบโจทย์ผมเป็นที่สุด นั้นคือการทุ่มเวลาระยะสั้น อาจจะ 2-4 สัปดาห์สำหรับสินค้าแต่ละตัวให้เรียบร้อยรวมไปถึงการทำหน้าร้านและเชื่อมระบบชำระเงินให้เรียบร้อย หลังจากนั้นระบบจะทำงานแทนเราเอง ระหว่านั้นก็อาจจะหาทราฟฟิคเข้าเรื่อย ๆ เช่น ทำ facebook ads หรือ google ads หรือจะทำ seo ก็แล้วแต่ความถนัด

แล้ว Digital Product มันคืออะไร ??
ผมจะอธิบาย Digital Product  ให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือเป็นสินค้าที่จับต้องไม่ได้ เป็นสินค้าประเภทดิจิตอล ลูกค้าสามารถสั่งซื้อ ชำระตังค์ และดาวน์โหลดสินค้าได้เลย ตัวอย่างสินค้าดิจิตอล เช่น อีบุ๊คส์ , คอร์สเรียนออนไลน์ ,  รูปภาพ , เพลง , เวกเตอร์ , ปลั๊กอิน , ธีมเว็บไซต์ เป็นต้น 

ถ้าไม่มีทักษะจะทำได้ไหม ??
หากจะว่าไม่มีทักษะก็ทำได้ มันอาจจะดูขายฝันไป แต่ถ้ามีความมุ่งมั่น ตั้งใจ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างสินค้าของตัวเองได้ ส่วนเรื่องทักษะการสร้างสินค้า การหานิชสินค้า การสร้างเว็บไซต์ไปจนถึงการเชื่อมต่อระบบชำระเงินนั้น เดี๋ยวผมจะทำวิดีโอเป็นแนวทางให้ครับ

ค่าใช้จ่ายทำ Digital Product แพงไหม ??
สำหรับค่าใช้จ่ายนั้นผมประมาณการให้คราว ๆ จะมีค่าโฮสต์ โดเมน และสินค้า ประมาณ 1,200 บวกลบนิดหน่อย ส่วนค่าการตลาดตีไปเดือนละ 2,000 - 3,000 บาท

จะเริ่มต้นทำ Digital Product ยังไง ??
ใจเย็นสักนิดนะครับ ตอนนี้ผมกำลังจัดทำคอร์สสอนทำ Digital Product ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ 20-30 วันข้างหน้านี้

ในคอร์สจะสอนอะไรบ้าง ??
สำหรับหัวข้อที่ผมจะสอน ประกอบไปด้วยหัวข้อหลัก ๆ ดังนี้ครับ

1. การสร้าง digital product 
2. การสร้าง sale page สำหรับ digital product
3. การเชื่อมต่อ paypal เพื่อรับชำระเงิน
4. การสร้างช่องทางส่งมอบสินค้าดิจิตอล downloadable
5. การสร้าง list building สำหรับเป็นฐานลูกค้าในอนาคต
6. การโปรโมต digital product ด้วย Facebook Ads
7. แนะนำแหล่งจ้างงาน ทำเองไม่ได้ ก็จ้างซะเลย 

รูปแบบการสอนเป็นยังไง ??
รูปแบบการสอนหลัก ๆ จะเป็นคอร์สออนไลน์และมีกลุ่มพูดคุยครับ อาจจะมีคอร์สตัวต่อตัวจะแจ้งให้ทราบอีกที แต่ไม่ได้รับเยอะครับ

ค่าคอร์สเรียนแพงไหม ราคาเท่าไหร่ ??
สำหรับคอร์สเรียนออนไลน์ เป็นวิดีโอคอร์ส มีกลุ่มพูดคุย ราคา 6,900 บาท

ทำไมราคาแพงจัง ??
คนที่มองว่าราคาสมเหตุสมผลเทียบกับสิ่งที่จะได้รับ ผมก็ขอขอบคุณที่เข้าใจความสเหตุสมผล ส่วนคนที่มองว่าแพง คือคนที่เก่ง มีความสามารถอยู่แล้วดังนั้นอาจจะไม่เหมาะกับคอร์สนี้ 

ความได้เปรียบของสินค้าดิจิตอล
– กำไรงาม (Hight profit margin)
– ไม่มีต้นทุนในการจัดส่ง (No shipping cost)
– ไม่มีข้อจำกัดในการจัดส่ง (No shipping restrictions)
– ไม่ต้องมีพื้นที่จัดเก็บและค่าใช้จ่าย (No storage space and cost)
– สินค้าไม่ขาดสต๊อกแน่นอน (No inventory shortage)

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วไม่ว่าเพื่อน ๆ คิดยังไงกับการสร้างรายได้กับ Digital Product  ผมมิอาจบังคับ หรือฝืนใจเพื่อน ๆ ได้ แต่อยากจะบอกว่า สำหรับคอร์สที่ผมจะเปิดสอนนี้ ตอนนี้อยู่ในช่วง Pre Launch ซึ่งผมมีส่วนลดพิเศษให้ และเมื่อคอร์สเปิดตัวแล้ว ราคาจะกลับมาเป็นราคาปกติ ไม่มีโปรโมชั่น/ไม่รู้จะเปิดโปรโมชั่นอีกทีเมื่อไหร่ ...